เสียสุขภาพจิต บริษัทสูญเสีย เท่าไหร่...
ปัญหาสุขภาพจิตไม่ได้กระทบเพียงแต่ตัวบุคคล แต่ยังเกี่ยวพันกับประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วย เพราะถ้าสุขภาพจิตดีก็ทำงานได้ดี อารมณ์ดี Toxic กับผู้อื่นน้อยลง ใช้หัวคิดและประสิทธิภาพต่างๆ เจรจาต่อรองได้ดี
ในขณะเดียวกัน ถ้าเครียดเรื้อรัง ดูแลไม่เป็นจนเบิร์นเอาท์ เศร้าหนักจนซึมเศร้า ก็จะแผ่รังสีความทุกข์ออกมา คนรอบข้างก็ไม่อยากเข้าใกล้สักเท่าไร ใช้ความคิดได้ไม่เต็มที่เหมือนแต่ก่อน งานหนักเหมือนเดิม แต่กลับรู้สึกเซนซิทีฟมากขึ้น ก็ยิ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพงานลดลง ต้องลางาน หรือทำงานไปก็ยิ่งดึงความรู้สึก ดึงประสิทธิภาพของทีมลง
บางองค์กรละเลยเรื่องของใจเพราะคิดว่า ปล่อยไปเดี๋ยวก็หายเอง
ทว่าบางครั้ง เป็นไข้หวัด แต่ไม่จัดการดูแลอย่างเหมาะสม ก็พัฒนาเป็นไข้หวัดเรื้อรัง แถมยังส่งผลให้คนรอบข้างติดเชื้อ ไข้หวัดทางจิตใจอย่างกังวล เครียด ซึมเศร้า เหนื่อยหน่าย ก็เช่นกัน
จากการศึกษา พบว่าการไม่ดูแลปัญหาสุขภาพจิตของพนักงานทำให้บริษัทในออสเตรเลียสูญเสียเงินกว่า $10.9 billion ต่อปี
โดย สูญเสียเงินที่ควรจะได้ $4.7 billion/ปี จากการลางานเนื่องจากปัญหาสุขภาพจิต
และสูญเสีย $6.1 billion/ปี จากการทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเนื่องจากปัญหาสุขภาพจิต เครียดเรื้อรัง ซึมเศร้า เบิร์นเอาท์
ในขณะที่บริษัทของอเมริกันสูญเสีย $17-44 billion ต่อปี
เอาเข้าจริง การดูแลสุขภาพจิต ใช้เงินค่อนข้างมาก โดยส่วนตัวรู้สึกว่า มากกว่าการดูแลสุขภาพกายเสียด้วยซ้ำ เพราะการบำบัดต่างๆ ต้องต่อเนื่อง อย่างน้อยๆ ก็ 3-5 ครั้ง จึงจะเห็นว่าดีขึ้น โดยช่วงแรกอาจนัดเจอกัน 1-2 ครั้งต่อเดือน บางเรื่องบางอาการต้องดูแลต่อเนื่องกัน 6 เดือน ถึง 1 ปี ในประเทศไทยตอนนี้ค่าบริการด้านสุขภาพจิตมีตั้งแต่ 400-5,000 บาท ต่อครั้ง หากพนักงานต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้วยตนเองก็นับเป็นเงินที่สูงพอสมควร
หากบริษัทมีการดูแลสุขภาพจิตพนักงานด้วย EAP: Employee Assistance Program เป็นโปรแกรมช่วยเหลือพนักงานเมื่อเกิดความเครียดและปัญหาด้านจิตใจจากทุกสาเหตุ ด้วยกระบวนการปรึกษาเชิงจิตวิทยาแบบกระชับ ผ่านทางโทรศัพท์กับนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งให้บริการครอบคลุมทั้งพนักงาน รวมถึงบุคคลในครอบครัวของพนักงาน
โปรแกรมนี้จะช่วยให้คนในองค์กรมีตัวช่วยในการลดความเครียดและคัดกรองปัญหาทางด้านสุขภาพจิตในระยะแรกเริ่ม ไม่ให้ลุกลามเป็นปัญหาทางจิตที่รุนแรงในเวลาต่อมา เพราะความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตมีความสัมพันธ์กับการเจ็บป่วยทางใจและทางกาย หากพนักงานมีสุขภาพจิตที่ดีจะเอื้อผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย
เปรียบได้กับ หากบริษัทมีประกันสุขภาพร่างกายให้พนักงานอยู่แล้ว EAP คือประกันสุขภาพจิตใจให้กับพนักงานนั่นเอง
จากการศึกษาพบว่า การลงทุนเพื่อดูแลสุขภาพจิตพนักงานเพียง $1 กลับทำให้พนักงานทำงานได้ดีและบริษัทได้เงินกลับมา (ROI: Return Of Investment) $3 เพราะพนักงานรู้สึกว่าได้รับการดูแลที่ดี
และการปรึกษาเชิงจิตวิทยาช่วยลดการขาดงานเนื่องจากปัญหาสุขภาพจิตจาก 8% เป็น 4%
การดูแลสุขภาพจิตของพนักงานด้วย EAP บางบริษัททำให้เกิด ROI สูงถึง 14:1
#EAP
#EmployeeAssistanceProgram
#Stress
#Burnout
#Depression
#WellBeing
#TeamWork